NOAA เตือน จับตา พายุแม่เหล็กโลก ระดับรุนแรง ดูผลกระทบต่อโลก
วันที่ 10 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจเฟซบุ๊ก สมาคมดาราศาสตร์ไทย โพสต์เตือนพายุแม่เหล็กโลก ระบุว่า “ด่วน! NOAA ออกประกาศเฝ้าติดตามพายุแม่เหล็กโลกระดับร้ายแรง G4 คืนวันพรุ่งนี้ เผยมีโอกาส 25% ที่จะทวีความรุนแรงสู่ระดับสุดขั้ว G5”
ข้อมูลจากเว็บไซต์ สมาคมดาราศาสตร์ไทย กล่าวถึงความรุนแรงของพายุแม่เหล็กโลกไว้ว่า ดวงอาทิตย์ เป็นดาวฤกษ์ที่มนุษย์คุ้นเคยที่สุด เป็นดาวที่เป็นทั้งผู้ให้กำเนิด และให้พลังงานหล่อเลี้ยงชีวิตบนโลก ดวงอาทิตย์ที่ดูเหมือนเป็นทรงกลมเกลี้ยงที่สงบเงียบแท้จริงแล้วมีปรากฏการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นตลอดเวลา บางครั้งอาจเกิดการปะทุใหญ่ บนพื้นผิว พ่นทั้งพลังงานและอนุภาคพลังงานสูงออกมาเป็นปริมาณมาก ซึ่งส่งผลกระทบมาถึงโลกได้
หนึ่งในปรากฏการณ์ที่เกิดจากการปะทุบนดวงอาทิตย์ที่มีผลมาถึงโลกคือ พายุแม่เหล็กโลก เกิดจากลมสุริยะที่มีความรุนแรงปะทะเข้ากับสนามแม่เหล็กของโลกจนทำให้เกิดความปั่นป่วน แม้การปะทะนี้จะเกิดขึ้นในอวกาศเหนือชั้นบรรยากาศโลกไป แต่ก็ส่งผลกระทบต่อโลกได้ โดยเฉพาะผลกระทบต่อเทคโนโลยีอวกาศ เช่น ดาวเทียม การส่งกำลังไฟฟ้า หรือการสื่อสารวิทยุ ส่วนผลกระทบโดยตรงต่อชีวิตมนุษย์มีไม่มากนัก
องค์การบริหารมหาสมุทรและบรรยากาศแห่งชาติสหรัฐอเมริกา หรือโนอา (NOAA–National Oceanic and Atmospheric Administration) ได้กำหนดมาตราหนึ่งสำหรับแสดงระดับความรุนแรงของปรากฏการณ์ทางภูมิอากาศนอกโลกที่จะมีผลต่อโลกไว้เพื่อความสะดวกในการสื่อสารกับสาธารณชน มาตรานี้แสดงด้วยตัวเลขในทำนองเดียวกับมาตราริกเตอร์ที่แสดงความรุนแรงของแผ่นดินไหวหรือมาตราฟุชิตะที่ใช้ในการแสดงความรุนแรงพายุ”
ขณะที่ รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า “(จากโพสต์สมาคมฯ) ปรากฏการณ์ที่เกิดจากการปะทุบนดวงอาทิตย์ที่มีผลมาถึงโลกคือ พายุแม่เหล็กโลก เกิดจากลมสุริยะที่มีความรุนแรงปะทะเข้ากับสนามแม่เหล็กของโลกจนทำให้เกิดความปั่นป่วน
แม้การปะทะนี้จะเกิดขึ้นในอวกาศเหนือชั้นบรรยากาศโลกไป แต่ก็ส่งผลกระทบต่อโลกได้ โดยเฉพาะผลกระทบต่อเทคโนโลยีอวกาศ เช่น ดาวเทียม การส่งกำลังไฟฟ้า หรือการสื่อสารวิทยุ ส่วนผลกระทบโดยตรงต่อชีวิตมนุษย์มีไม่มากนัก”
โดยมีรายละเอียดว่า องค์การบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติของสหรัฐฯ (NOAA) รายงานว่าพายุสุริยะรุนแรงกำลังเคลื่อนตัวเข้าหาโลก และคาดว่าจะพัดถล่มโลกในวันพฤหัสบดี (10 ต.ค.)
ศูนย์พยากรณ์สภาพอากาศในอวกาศขององค์การฯ รายงานว่ามวลโคโรนา (CME) ที่เคลื่อนที่รวดเร็วถูกปลดปล่อยจากดวงอาทิตย์เมื่อช่วงเย็นวันอังคาร (8 ต.ค.) และคาดว่าจะกระทบโลกในช่วงเช้าตรู่จนถึงเที่ยงวันของวันพฤหัสบดี (10 ต.ค.)
บรรดานักพยากรณ์อากาศได้ออกประกาศเฝ้าติดตามพายุแม่เหล็กโลกระดับร้ายแรง จี4 (G4) โดยองค์การฯ คาดว่าความเร็วของมวลโคโรนานี้จะสูงถึง 1,300 กิโลเมตรต่อวินาที
องค์การฯ คาดว่าอาจพบเห็นแสงออโรราได้ในพื้นที่ตอนเหนือของสหรัฐฯ ส่วนใหญ่ รวมทั้งพื้นที่ทางใต้อย่างแอละแบมาไปจนถึงแคลิฟอร์เนียตอนเหนือ
อนึ่ง มวลโคโรนาคือการระเบิดของพลาสมาและสนามแม่เหล็กจากชั้นโคโรนาของดวงอาทิตย์ ซึ่งก่อให้เกิดพายุแม่เหล็กโลกเมื่อพุ่งเข้าหาโลก
