“ทนายตั้ม” เจอตำรวจเฝ้าที่บ้าน โผล่แจงปมเงิน 39 ล้าน กองปราบ

ทนายตั้ม เจอตำรวจเฝ้าที่บ้าน

“ทนายตั้ม” ปรากฏตัวที่กองปราบ หลังมีตำรวจไปเฝ้าที่บ้าน ยันอยู่บ้านตลอด ไม่ได้ไปไหน พร้อมแจงปมเงิน 39 ล้านค่าศิลปินจีน ที่แท้เป็นมิจฉาชีพหลอก “เจ๊อ้อย”

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 5 พ.ย. 67 ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ “ทนายตั้ม” ได้เดินทางมาปรากฏตัวครั้งแรก หลังถูก น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือ เจ๊อ้อย หรือ มาดามอ้อย แจ้งความดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกง และเก็บตัวเงียบมานานนับสัปดาห์

ทนายตั้ม กล่าวว่า ตนไม่ได้หายไปไหน ที่สื่อมวลชนติดต่อไม่ได้เพราะเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ หลังถูกสื่อมวลชนสำนักหนึ่งตามไปคุกคามความเป็นส่วนตัวถึงที่บ้าน ที่ผ่านมาตนอยู่บ้านมาตลอด ไม่ได้เดินทางออกนอกประเทศตามที่มีข่าว เงินในบัญชีก็ไม่เคยถอนออก ยืนยันในความบริสุทธิ์ และวันนี้สมัครใจเข้าพบพนักงานสอบสวนเอง ไม่ได้มาตามหมายเรียก เพราะรอหมายเรียกมาตลอด ตำรวจไม่ออกหมายเรียกสักที

แต่เมื่อคืนกลับส่งตำรวจมาตามตนไปถึงร้านสะดวกซื้อ ตอนเช้าก็ส่งตำรวจมาอีก 2-3 คันรถ ทั้งที่ตนอยู่บ้านทุกวัน เมื่อตนไปคุยเชิญให้เข้าตรวจค้นบ้านได้ไม่จำเป็นต้องมีหมาย ตำรวจกลับปฏิเสธและเดินทางกลับ ทำให้รู้สึกไม่สบายใจ จึงมาพบพนักงานสอบสวนเพื่อให้ข้อมูลเอง

ส่วนที่ก่อนหน้านี้ไม่มีการประสานขอเข้าพบตำรวจ เนื่องจากเคยทำหนังสือขอให้ตำรวจสอบปากคำผู้กล่าวหาและพยานให้เต็มที่ก่อน เพื่อให้ตำรวจมีเวลาในการดำเนินการเต็มที่ พร้อมทั้งยังขอให้แยกสอบพยานและบันทึกวิดีโอเป็นหลักฐานไว้ด้วย เพื่อป้องกันการซักซ้อมเตรียมคำให้การ แต่ในเมื่อตำรวจตามไปถึงบ้านตน แสดงว่าตำรวจมีเรื่องอยากคุยจึงเดินทางมาพบ

ทนายตั้ม ยังได้กล่าวชี้แจงปมเงิน 39 ล้านบาท ค่าว่าจ้างศิลปินจีนมาไทยนั้น ความจริงแล้วตรงกันข้ามกับข้อมูลที่มีการนำเสนอมาทุกอย่าง เพราะเรื่องจริงคือ เจ๊อ้อยได้ไปกดไลค์ไอจี “เฉินคุน” ดาราจีนคนหนึ่ง จากนั้นได้มีบุคคลอ้างเป็น “เฉินคุน” ทักข้อความมาตีสนิทกับเจ๊อ้อยนานนับปี จนเจ๊อ้อยอยากจะให้บุคคลดังกล่าวมาหาที่ไทย และให้ตนช่วยโอนเงินให้อีกฝ่าย เพราะอีกฝ่ายให้โอนเป็นสกุลเงินดิจิทัล ตนไม่เชี่ยวชาญ จึงให้น้องอีกคน ชื่อ นุ เป็นคนดำเนินการให้ แต่เมื่อโอนเงินให้อีกฝ่ายไปแล้ว อีกฝ่ายกลับไม่ยอมมา และให้โอนเงินเพิ่มเป็นค่าบอดี้การ์ด ตนเริ่มเอะใจว่าอาจเป็นสแกมเมอร์ แต่เจ๊อ้อยยืนยันจะให้โอนอีกครั้ง ตนจึงต้องยอมโอน แต่อีกฝ่ายก็ยังไม่มา

เมื่อตนลองไปสืบค้นข้อมูล ขอเบอร์จากผู้จัดการดาราชื่อดังของไทย เพื่อประสานงานกับผู้ประสานงานศิลปินจีน ได้รับข้อมูลว่าไม่น่าจะใช่ “เฉินคุน” ตัวจริง เพราะปกติดาราจีนจะไม่มีการทักข้อความหาแฟนคลับลักษณะนี้ รวมทั้งช่วงเวลาที่พูดคุยกันนั้น “เฉินคุน” กำลังฝึกสมาธิอยู่ในป่า ตนจึงพยายามจะให้เจ๊อ้อยพูดคุยกับผู้ประสานงานดาราจีนคนดังกล่าว เพื่อให้เชื่อว่าที่คุยกันนั้นเป็นสแกมเมอร์ ไม่ใช่ “เฉินคุน” จริงๆ แต่เจ๊อ้อยกลับไม่เชื่อ ตนก็ไม่อยากยุ่งแล้ว เจ๊อ้อยจึงไปคุยกันเองและโอนเงินให้เพิ่มอีก

ทนายตั้ม ยังกล่าวอีกว่า ส่วนปมเงิน 71 ล้านบาท ยังยืนยันในคำเดิมว่าเป็นเงินที่ได้โดยเสน่หา คือได้รับโดยไม่มีสัญญาผูกมัดผูกพัน และหลังสอบปากคำผู้กล่าวหามาหลายวัน ก็เชื่อว่าเรื่องนี้ตำรวจน่าจะพอรู้แล้วว่าข้อเท็จจริงคืออะไร สอดคล้องกันหรือไม่กับหลักฐานที่มี ส่วนเรื่องค่าออกแบบต่างๆ นั้น จะเป็นการฉ้อโกงได้อย่างไร ในเมื่อตนรับงานมา ก็ทำใบเสนอราคา และส่งมอบงานทุกโครงการตามสัญญาครบถ้วน

ส่วนกรณีรถที่บอกว่าตนนำรถเบนซ์ไปเข้าไฟแนนซ์ และนำไปปล่อยเช่าให้กลุ่มทุนจีนสีเทานั้น ก็ไม่เป็นความจริง สามารถตรวจสอบเล่มทะเบียนรถได้ว่า รถคันดังกล่าวเป็นชื่อของเจ๊อ้อยตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ ตนจะนำไปเข้าไฟแนนซ์และให้ชาวจีนเช่าได้อย่างไร และตลอดเวลาที่ใช้รถคันดังกล่าวมีภรรยาของตนประกบติดกับเจ๊อ้อยมาตลอด อีกทั้งตนไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงินขนาดต้องเอาไปให้กลุ่มทุนจีนเทาเช่า

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ามาพบตำรวจในวันนี้ พร้อมจะเผชิญหน้ากับเจ๊อ้อยหรือไม่ ทนายตั้มบอกเพียงว่ายังไม่พร้อมคุย ไม่รู้จะคุยอะไร วันนี้แค่อยากมาพบตำรวจเท่านั้น หลังจากให้สัมภาษณ์เสร็จ ทนายตั้มได้เดินมาพบตำรวจที่อาคารศูนย์รับแจ้งความ ก่อนเดินทางกลับทันที.

[redirect url='https://s.shopee.co.th/9pM8pF4PPl' sec='3']
Picture of ChapChai Official

ChapChai Official

เว็บไซต์แนะนำสินค้าที่ดีที่สุดให้แก่คุณ

ดูท้ังหมด

แนะนำสำหรับคุณ