ผบ.ตร. เดือดสั่งเด็ดปีก แก๊งตำรวจอุ้มรีดเงินชาวจีน 300 ล้านบาท พร้อมสั่งเอาผิดวินัยอาญาอย่างเด็ดขาด
วันที่ 1 พ.ย. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีข้าราชการตำรวจ สังกัดกองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และมีตำรวจในสังกัดหน่วยอื่นๆ มีกรณีเรียกรับผลประโยชน์กลุ่มจีนเทา
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. เผยว่า ได้สั่งกำชับให้ พล.ต.ท. ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ดำเนินการเร่งรัดสั่งการสืบสวนจับกุมตัวมาดำเนินคดี และให้ต้นสังกัดดำเนินการทั้งวินัยอาญาอย่างเด็ดขาด โดยให้สืบสวนขยายผลผู้มีส่วนในการกระทำผิดต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาด แล้วรายงานผลให้ทราบโดยเร็วเป็นตำรวจทำผิดต้องรับโทษ จะไม่มีละเว้น ทำดีต้องยกย่องเชิดชูให้รางวัล
ขณะที่ พล.ต.ต.จิระวัฒน์ พยุงธรรม รรท.ผบช.สอท ลงนามในคำสั่ง 209/2567 ลงวันที่ 21 ต.ค. เรื่องให้ข้าราชการตำรวจไปช่วยราชการ ใจความว่าต่อมา กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 ได้มีคำสั่งที่ 96/2567 ลงวันที่ 18 ตุลาคม เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงนั้น
ฉะนั้นเพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคต่อการตรวจสอบข้อเท็จจริงและมิให้เข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ให้ ร.ต.อ.ธนกฤต กาญจนมาศ รองสว.กก.1บก.สอท.1, ด.ต.สุพรรณ ของใส, จ.ต.กิตติภูมิ จีนแปลงชาติ ผบ.หมู่กก.1บก.สอท.1 ไปช่วยราชการที่ ศปก.บก.สอท.1 มาช่วยราชการที่ศปก.บช.สอท. โดยให้ขาดจากตำแหน่ง
ทั้งนี้ มีรายงานว่าคำสั่งดังกล่าวนั้น มาจากกรณีที่มีผู้ร้องเรียนว่ามีตำรวจไซเบอร์ทั้ง 3 นาย ได้ไปคุมตัวคนจีน 4 คนจากบ้านพักในพื้นที่บางแก้ว โดยอ้างว่าเอี่ยวแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และตรวจค้นพลการโดยไม่มีหมายค้นนำตัวมายัง บก.สอท.1 สอบสวนพร้อมกับมีการเรียกรับเงิน 5.7 ล้านบาท แลกกับการปล่อยตัวเหตุเกิดวันที่ 17 ต.ค.
หลังทราบเรื่องทาง พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 ได้ออกคำสั่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยมอบ พ.ต.อ.ทำนุรัฐ คงมั่น รองผบก.สอท.1 เป็นประธานกรรมการให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จใน 30 วัน.