จุลพันธ์ ยันแจกเงินดิจิทัล 10,000 ตามกรอบเวลาเดิม คนไม่มีสมาร์ทโฟนใช้ผ่านบัตรประชาชนได้ เตรียมป้องกันการสวมสิทธิ เผยสัปดาห์หน้านัดคุยแบงก์ทํา Open Loop ดึงเชื่อมโมบายแบงกิ้ง ขณะที่การกำหนดสินค้า Negative List ยังไม่สรุป ต้องรอกระทรวงพาณิชย์เสนอ
วันที่ 18 พฤษภาคม 2567 นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการกำกับการดำเนินโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet เปิดเผยว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา อนุกรรมการกำกับฯ ได้หารือถึงการเชื่อมโยงระบบร่วมกับหลายหน่วยงาน
ทั้งกระทรวงมหาดไทย กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงการคลัง และสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (สพร.) โดยยืนยันดำเนินโครงการในกรอบเวลาเดิม คือเริ่มลงทะเบียนทั้งร้านค้าและประชาชน ภายในไตรมาสที่ 3
ทั้งนี้ ในการรลงทะเบียน ประชาชนที่เคยยืนยันตัวตนผ่านโครงการรัฐในหลาย ๆ โครงการ ไม่ต้องยืนยันตัวตนใหม่ อย่างไรก็ดี การยืนยันรับสิทธิเข้าร่วมโครงการยังจำเป็น ซึ่งประชาชนทุกคนจะต้องมีแอปพลิเคชั่น “ทางรัฐ”
“จำนวนผู้ได้รับสิทธิยังคงเท่าเดิมคือ 50 ล้านคน สำหรับกลุ่มประชาชนที่ไม่สามารถเข้าถึงสมาร์ทโฟน บางรายอาจไม่มีโทรศัพท์ใช้ ได้มอบหมายให้สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัลไปพูดคุยต่อกับคณะกรรมการที่ติดตามข้อมูลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และตำรวจไซเบอร์ เพราะกลไกที่จะรองรับก็ได้เตรียมและออกแบบมาแล้ว ซึ่งคาดว่าจะใช้บัตรประชาชน แต่จะต้องไปหารือกันเพิ่มเติม เพราะจะต้องป้องกันการสวมสิทธิ โดยผู้ใช้จะไม่สามารถยืมเอาโทรศัพท์ของอีกคนไปใช้จ่ายได้”
นายจุลพันธ์กล่าวอีกว่า ในสัปดาห์หน้าจะมีการนัดหมาย เพื่อพูดคุยกับธนาคารเฉพาะกิจของรัฐและธนาคารพาณิชย์ ในเรื่องของการทํา Open Loop ที่จะสามารถใช้จ่ายกับบัญชีธนาคารอื่น ๆ ได้
“การคุยนอกรอบที่ผ่านมา ได้รับสัญญาณที่ดีในหลาย ๆ ประเด็น ทั้งเรื่องของการเข้ามาเชื่อมโยง เพราะเป็นประโยชน์กับประชาชนที่จะสามารถเข้าถึงบริการเข้าถึงระบบได้ง่ายขึ้น ในเบื้องต้นได้รับการสนับสนุนในเรื่องของนโยบาย ซึ่งกลไกที่เขาจะเข้ามาให้ความช่วยเหลือเชื่อมโยงมีส่วนร่วมกับงานของเราก็เป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์ กําลังพูดคุยกันอยู่”
ขณะที่การกำหนดสินค้า Negative List ที่ไม่เข้าร่วมโครงการยังต้องหารือกับกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งยังเน้นย้ำหลักการเดิม คือจะต้องเป็นสินค้าที่ผลิตและทำให้เกิดการจ้างงานในประเทศ ส่วนร้านค้าที่จะเข้าร่วมโครงการขณะนี้คาดว่ามีมากกว่าล้านราย
“สินค้าในไทยมีเป็นพันล้านอย่าง จะลงรายละเอียดให้ตอบทั้งหมดอาจจะลําบาก แต่ว่าเราก็จะต้องกําหนดกรอบที่จะสามารถเข้าใจและดําเนินการได้ กระทรวงพาณิชย์กําลังดําเนินการอยู่”