มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี ปี 2024 วิ่งได้ไกล ดีไซน์สวย ราคาไม่แพง

มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี ปี 2024 วิ่งได้ไกล ดีไซน์สวย ราคาไม่แพง

ถ้าหากคุณกำลังมองหามอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี เรามีมาแนะนำทั้งคุณภาพที่ดี มีการออกแบบที่สวยงาม และมีประสิทธิภาพการใช้งานที่ดี อีกทั้งยังมีราคาที่เหมาะสมกับสมรรถนะที่ได้รับด้วย ซึ่งจะเห็นได้ว่าผู้คนหันมาสนใจรถยนต์ไฟฟ้า หรือรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากเป็นพลังงานสะอาด ปราศจากมลพิษ และประหยัด วันนี้จับฉ่ายรีวิวเรามีมาแนะนำในบทความนี้ จะมียี่ห้อไหนบ้างไปดูกันได้เลย

5 มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี ที่ได้รับความนิยม

1. มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า DECO รุ่น Super Ace

มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า DECO รุ่น Super Ace
รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ารุ่นนี้มีราคาไม่แพง และมีประสิทธิภาพดี สามารถขับไปได้ทั้งระยะทางทั้งใกล้และไกล ด้วยดีไซน์ทันสมัย และใช้ระบบกุญแจอัจฉริยะ เพื่อความปลอดภัยยังมีเซ็นเซอร์ขาตั้ง และหน้าจอแสดงผลอ่านง่าย รองรับน้ำหนักบรรทุกได้ดีโดยไม่ทำให้เครื่องมีปัญหาในการใช้งาน

คุณสมบัติ

  • มอเตอร์ 2000W (มีการรับประกัน 3 ปี)
  • แบตเตอรี่ ลิเธียมไอออน LFP ความจุ 73.6V30Ah (มีการรับประกัน 2 ปี)
  • ความเร็วสูงสุด 80 กม./ชม.
  • ระยะทางสูงสุด 70-85 กม. (ทดสอบที่ความเร็วเฉลี่ย 35 กม./ชม.) ระยะทางที่แท้จริงขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น น้ำหนักบรรทุก สภาพถนน และสไตล์การขับขี่
  • ระบบเบรก ดิสก์หน้าและหลัง
  • ระบบกุญแจอัจฉริยะ: ล็อค/ปลดล็อค สตาร์ท และค้นหารถจากระยะไกล
  • หน้าจอแสดงผล แสดงความเร็ว ระยะทาง และระดับแบตเตอรี่
  • มีเซ็นเซอร์ขาตั้ง ป้องกันไม่ให้รถออกตัวเมื่อขาตั้งข้างยังลงอยู่
  • น้ำหนัก 99.80 กก.
  • รองรับน้ำหนักบรรทุก 200 กก.
  • ขนาด: 750x1880x1080 มม.

2. มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า DECO รุ่น HANNAH

มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า DECO รุ่น HANNAH
มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ารุ่นนี้มีราคาประหยัด ใช้งานง่าย ด้วยดีไซน์เรียบง่าย และน้ำหนักเบา สามารถถอดแบตเตอรี่เปลี่ยนได้ มีระบบกุญแจอัจฉริยะ และหน้าจอแสดงผลอ่านง่าย มีเซ็นเซอร์ขาตั้งเพื่อความปลอดภัย ที่สำคัญประหยัดค่าไฟได้อีกด้วย

คุณสมบัติ

  • มอเตอร์ 1000W (มีการรับประกัน 3 ปี)
  • แบตเตอรี่ ลิเธียมไอออน NMC ถอดเปลี่ยนได้ ความจุ 64V20Ah (มีการรับประกัน 2 ปี)
  • ความเร็วสูงสุด: 65 กม./ชม.
  • ระยะทางสูงสุด: 60 กม. ระยะทางที่แท้จริงขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น น้ำหนักบรรทุก สภาพถนน และสไตล์การขับขี่
  • ระบบเบรก ดิสก์หน้าและหลัง
  • ระบบกุญแจอัจฉริยะ ล็อค/ปลดล็อค สตาร์ท และค้นหารถจากระยะไกล
  • หน้าจอแสดงผล แสดงความเร็ว ระยะทาง และระดับแบตเตอรี่
  • เซ็นเซอร์ขาตั้ง ป้องกันไม่ให้รถออกตัวเมื่อขาตั้งข้างยังลงอยู่
  • น้ำหนัก 88 กก.
  • รองรับน้ำหนักบรรทุก 150 กก.
  • ขนาด 1850x680x1050 มม.

3. มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า LEETA POWER 3000W

มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า LEETA POWER 3000W
มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าราคาประหยัดแต่มีประสิทธิภาพดี ใช้งานง่าย ดีไซน์ทันสมัย สามารถถอดแบตเตอรี่เปลี่ยนได้ มีระบบกุญแจอัจฉริยะ และหน้าจอแสดงผลอ่านง่าย นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่นพิเศษเช่น ระบบกันขโมย และช่องเก็บของใต้เบาะ เพื่อความปลอดภัยและความสะดวกสบายขณะขับขี่ ทำให้ประหยัดค่าไฟได้อีกด้วย

คุณสมบัติ

  • มอเตอร์ 3000W (มีการรับประกัน 3 ปี)
  • แบตเตอรี่ ลิเธียมไอออน NMC ถอดเปลี่ยนได้ ความจุ 72V30Ah (มีการรับประกัน 2 ปี)
  • ความเร็วสูงสุด 75 กม./ชม.
  • ระยะทาง 70-80 กม.
  • ระบบเบรก ดิสก์หน้าและหลัง
  • ระบบไฟ ไฟหน้า LED ไฟท้าย LED ไฟเลี้ยว LED
  • หน้าจอแสดงผล จอ LCD แสดงความเร็ว ระยะทาง ระดับแบตเตอรี่ และข้อมูลอื่นๆ
  • ฟังก์ชั่นพิเศษ ระบบกุญแจอัจฉริยะ ระบบกันขโมย ช่องเก็บของใต้เบาะ
  • น้ำหนัก 105 กก. (ไม่รวมแบตเตอรี่)
  • ขนาด 1990 x 710 x 1080 มม.

4. มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า STROM รุ่น Sailfish SFH-150Ls

มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า STROM รุ่น Sailfish SFH-150Ls Model S

มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดีรุ่นนี้มีดีไซน์เรโทรคลาสสิก มีมอเตอร์แรง ทำให้ขับขี่สนุก และแบตเตอรี่มีความจุสูง สามารถวิ่งได้ไกลต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง มีระบบกุญแจอัจฉริยะที่สะดวกสบาย มีหน้าจอแสดงผลอ่านง่าย และมีฟังก์ชั่นพิเศษเช่น ระบบกันขโมย และช่องเก็บของใต้เบาะ เพื่อความปลอดภัยและความสะดวกสบายในการใช้งาน นอกจากนี้ยังช่วยประหยัดค่าไฟด้วย

คุณสมบัติ

  • มอเตอร์ 1500W (มีการรับประกัน 3 ปี)
  • แบตเตอรี่ ลิเธียม-ไอออน LFP ความจุ 2.16 kWh (มีการรับประกัน 2 ปี)
  • ความเร็วสูงสุด 75 กม./ชม.
  • ระยะทาง 80 กม. (50 ไมล์) (ขึ้นอยู่กับสภาพการใช้งาน)
  • ระบบเบรก ดิสก์หน้าและดรัมหลัง
  • ระบบไฟ ไฟหน้า LED ไฟท้าย LED ไฟเลี้ยว LED
  • หน้าจอแสดงผล จอ LCD แสดงความเร็ว ระยะทาง ระดับแบตเตอรี่ และข้อมูลอื่นๆ
  • ฟังก์ชั่นพิเศษ ระบบกุญแจอัจฉริยะ ระบบกันขโมย ช่องเก็บของใต้เบาะ
  • น้ำหนัก 85 กก. (ไม่รวมแบตเตอรี่)
  • ขนาด 1980 x 580 x 1000 มม.

5. มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า LULAE V10s

มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า LULAE V10s

มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดีรุ่นนี้มีราคาประหยัด ดีไซน์ทันสมัย ใช้งานง่าย และมีฟังก์ชั่นพิเศษ เช่น ระบบกุญแจรีโมท และช่องเก็บของใต้เบาะ เพื่อความสะดวกสบายในการใช้งาน นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติที่ช่วยประหยัดค่าไฟ และสามารถรองรับน้ำหนักบรรทุกได้ดี

คุณสมบัติ

  • มอเตอร์ 1000W (มีการรับประกัน 3 ปี)
  • แบตเตอรี่ 60V24Ah (มีการรับประกัน 2 ปี)
  • ความเร็วสูงสุด 50 กม./ชม.
  • ระยะทาง 60-70 กม.
  • ระบบเบรก ดิสก์หน้าและดรัมหลัง
  • ระบบไฟ ไฟหน้า LED ไฟท้าย LED ไฟเลี้ยว
  • หน้าจอแสดงผล จอ LCD แสดงความเร็ว ระยะทาง ระดับแบตเตอรี่ และข้อมูลอื่นๆ
  • ฟังก์ชั่นพิเศษ ระบบกุญแจรีโมท ช่องเก็บของใต้เบาะ
  • น้ำหนัก 135 กก.
  • ขนาด 1750 x 750 x 1050 มม.

จุดเด่นของรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า

หลังจากที่เราได้รู้ไปแล้วว่ารถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าคืออะไร คราวนี้เรามาดูข้อดีของรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าว่ามีอะไรบ้าง ก่อนตัดสินใจว่าจะซื้อรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี

1.ช่วยประหยัดเงินในการบำรุงรถมอเตอร์ไซค์

อย่างแรกที่เห็นได้อย่างชัดเจน คือ ความสามารถในการประหยัดเงินที่น่าประทับใจอย่างเหลือเชื่อ โดยเราสามารถเก็บเงินในกระเป๋าไว้ได้อย่างมากมาย โดยไม่จำเป็นต้องใช้เงินในค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการบำรุงรักษาเครื่องยนต์ เช่น ค่าน้ำมันเครื่อง, น้ำมันเฟืองท้าย, ค่าน้ำมันเบรค หรือค่าเซอร์วิสในการตรวจเช็คสภาพรถตามระยะที่กำหนดไว้ ในทางกลับกัน การบำรุงรักษารถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า จะให้ความสำคัญกับการตรวจสอบระบบการทำงานของรถเอง การเช็คสภาพของลมยาง, เช็คเบรค และการเช็คปริมาณของแบตเตอรี่ ซึ่งส่วนใหญ่สามารถทำได้ด้วยตนเองโดยไม่ต้องใช้บริการเซอร์วิสช่าง ซึ่งทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายได้อีกด้วย

2.ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเติมน้ำมัน

นอกจากที่จะประหยัดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรถแล้ว คุณยังสามารถประหยัดเงินในกระเป๋าเรื่องค่าน้ำมันรถได้มากถึง 10 เท่า การใช้รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้านั้น ทำให้เราไม่ต้องใช้น้ำมันเชื้อเพลิง เนื่องจากมันใช้พลังงานไฟฟ้าที่สามารถชาร์จเข้าไปในตัวรถได้ ต่างจากรถมอเตอร์ไซค์ทั่วไปที่ใช้น้ำมัน ซึ่งทำให้คุณไม่ต้องเสียเงินในการเติมน้ำมัน และไม่ว่าราคาน้ำมันจะขึ้นหรือลงก็ไม่มีผลกระทบต่อคุณ ส่วนเรื่องการประหยัดได้ถึง 10 เท่านั้น เนื่องจากต้นทุนค่าเชื้อเพลิงของรถมอเตอร์ไซค์ทั่วไปอยู่ที่ 1.1 บาทต่อกิโลเมตร ในขณะที่รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ามีค่าต่อกิโลเมตรเพียง 0.1 บาทเท่านั้น

3.สามารถเชื่อมต่อเทคโนโลยีได้

ผู้ผลิตรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าได้นำเทคโนโลยีมาพัฒนาให้สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆ ได้อย่างสะดวกสบาย เช่น บางรุ่นของรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าสามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน เพื่อให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบสถานะและสภาพของรถได้ด้วยตัวเอง โดยไม่จำเป็นต้องนำรถไปยังศูนย์บริการหลังการขาย เป็นการเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานของผู้ขับขี่ ซึ่งเป็นการตอบสนองต่อไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่อย่างดีอีกด้วย

4.พลังงานสะอาดไม่สร้างมลภาวะให้โลก

การใช้พลังงานสะอาดที่ไม่สร้างมลพิษต่างๆ เช่น ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์หรือก๊าซออกไซด์ของไนโตรเจน ซึ่งอาจจะลอยอยู่ในอากาศและเข้าสู่ร่างกายของเราผ่านการหายใจ นอกจากนี้ เสียงที่เกิดจากรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าก็มีระดับเสียงที่ต่ำไม่รบกวนคนในบริเวณรอบๆ อีกด้วย และยังไม่สร้างฝุ่นควันที่เป็นต้นเหตุของ PM 2.5 ที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพอีกด้วย

5.เครื่องยนต์และอุปกรณ์มีความแข็งแรงทนทาน

คุณสมบัติของเครื่องยนต์และอุปกรณ์ทั้งหมดของรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ามีความแข็งแรงและทนทานอย่างมาก เครื่องยนต์และอุปกรณ์ต่างๆ เกือบทุกชิ้นของรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ามักมีความแข็งแรงและทนทานมากกว่ารถมอเตอร์ไซค์ทั่วไป อุปกรณ์ก็มีจำนวนที่น้อยลงเมื่อเปรียบเทียบกับรถมอเตอร์ไซค์ทั่วไป ซึ่งถ้ารถเสียก็สามารถซ่อมแซมได้ง่ายด้วยตนเอง นอกจากนี้ ข้อดีอีกอย่างคือรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าไม่มีส่วนที่ทำให้รถเกิดความร้อน ฉะนั้นการสัมผัสกับรถก็ไม่เป็นอันตราย ซึ่งจะต่างกับรถมอเตอร์ไซค์ทั่วไปที่มีความร้อนอยู่ในตัวรถเป็นพิเศษจากท่อไอเสียมีความร้อนสูง

[redirect url='https://s.shopee.co.th/9pM8pF4PPl' sec='3']
Picture of ChapChai Official

ChapChai Official

เว็บไซต์แนะนำสินค้าที่ดีที่สุดให้แก่คุณ

ดูท้ังหมด

แนะนำสำหรับคุณ