การเลือกไดร์เป่าผม ยี่ห้อไหนดี ก็เป็นเรื่องที่ไม่ยากเลยเพราะตอนนี้มีไดร์เป่าผมที่ล้ำสมัยมาก เช่น สามารถจัดแต่งทรงผมได้ดีไม่ทำให้ผมแห้งเสียเกินไป มีดีไซน์สวยล้ำสมัย เล็กกระทัดรัดแต่ทรงพลังและมีลมที่แรง วันนี้จับฉ่ายรีวิวได้คัดเลือกไดร์เป่าผมแบรนด์ดังมาไว้ที่นี่แล้ว
ไดร์เป่าผม ยี่ห้อไหนดีที่ได้รับความนิยม
1. Panasonic nanoe Hair Dryer รุ่น EH-NA98-AL
เป็นไดร์เป่าผมระดับพรีเมี่ยมจากแบรนด์ Panasonic มาพร้อมเทคโนโลยี nanoe ที่ช่วยปรับสมดุลความชุ่มชื่นให้เส้นผม ผมแห้งเร็วไม่กระด้าง เหมาะกับทุกสภาพผม
- เทคโนโลยี nanoe ปล่อยอนุภาคน้ำขนาดเล็กกว่าไอออนทั่วไป 1,000 เท่า ช่วยให้ซึมซาบได้ลึกยิ่งขึ้น เพิ่มความเงางามให้กับเส้นผม และปกป้องเส้นผมจากความเสียหายที่มองเห็นได้
- เทคโนโลยี Double Mineral ผสมผสานสารสกัดจากแร่ธาตุ 2 ชนิด ได้แก่ แคลเซียมและแมกนีเซียม ที่ช่วยปกป้องเส้นผมจากความร้อนจัด
- หัวเป่า 2 แบบ หัวเป่าแบบกระจายลมช่วยให้ผมแห้งเร็ว และหัวเป่าแบบโฟกัสช่วยให้ผมตรงสวย
- ปรับความแรงและความร้อนได้ 3 ระดับ
- มีโหมดสลับลมร้อน/เย็น
- มีโหมดควบคุมอุณหภูมิอัจฉริยะ
- มีโหมดดูแลหนังศีรษะ
- มีโหมดดูแลผิวหนัง
2. PHILIPS รุ่น BHD350/10
เป็นไดร์เป่าผมราคาประหยัดจากแบรนด์ Philips มาพร้อมเทคโนโลยี ThermoProtect ที่ช่วยปกป้องเส้นผมจากความร้อนจัด ผมแห้งเร็วไม่แห้งเสีย
- กำลังไฟ 2,100 วัตต์ ให้ลมเป่าที่ทรงพลัง
- หัวเป่ากระจายลม Airflower ช่วยให้ผมแห้งเร็ว ไม่ชี้ฟู
- เทคโนโลยี ThermoProtect ช่วยลดอุณหภูมิขณะเป่าผมได้อย่างรวดเร็วถึง 15°C ปกป้องเส้นผมจากความร้อนจัด
- ปรับความแรงและความร้อนได้ 3 ระดับ
- มีโหมดสลับลมร้อน/เย็น
- มีระบบตัดไฟอัตโนมัติ
3. Panasonic Hair Dryer รุ่น EH-ND37-KL
เป็นไดร์เป่าผมราคาประหยัดจากแบรนด์ Panasonic มาพร้อมเทคโนโลยี Nanoe ที่ช่วยรักษาความชุ่มชื้นของเส้นผม ผมแห้งเร็วไม่แห้งเสีย
- กำลังไฟ 1,800 วัตต์ ให้ลมเป่าที่ทรงพลัง
- หัวเป่ากระจายลม ช่วยให้ผมแห้งเร็ว ไม่ชี้ฟู
- เทคโนโลยี Nanoe ปล่อยอนุภาคน้ำขนาดเล็กกว่าไอออนทั่วไป 1,000 เท่า ช่วยให้ซึมซาบได้ลึกยิ่งขึ้น เพิ่มความเงางามให้กับเส้นผม และปกป้องเส้นผมจากความเสียหายที่มองเห็นได้
- ปรับความแรงและความร้อนได้ 4 ระดับ
- มีโหมดสลับลมร้อน/เย็น
- มีโหมดดูแลหนังศีรษะ
- มีระบบตัดไฟอัตโนมัติ
4. Singer Lonic Fast dry
ดูเหมือนจะเป็นรุ่นที่น่าสนใจทีเดียว! อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมันเป็นรุ่นที่วางจำหน่ายในประเทศไทย ผมอาจจะหาข้อมูลภาษาอังกฤษหรือรีวิวจากต่างประเทศได้ไม่มาก
- เทคโนโลยี Ionic: ช่วยลดไฟฟ้าสถิตย์ ทำให้ผมไม่ชี้ฟู เรียบลื่น เงางาม
- Fast dry: พลังมอเตอร์ความเร็วสูง 18,000 รอบต่อนาที 6 ใบพัด ทำให้ผมแห้งเร็ว
- Complex ionic: ปล่อยประจุลบ 8 ล้านประจุ ช่วยดูแลเส้นผม
- ปรับความแรงลมได้ 2 ระดับ ปรับความร้อนได้ 3 ระดับ
- มาพร้อมหัวเป่าลม 2 แบบ: หัวเป่าปากแคบ และหัวเป่าตาข่ายโลหะ
- กำลังไฟ 1800 วัตต์
- น้ำหนักเบา พับเก็บได้สะดวก
5. LESASHA รุ่น Airmax Powerful Hair Dryer 1000 วัตต์
เป็นไดร์เป่าผมขนาดเล็กกระทัดรัด กำลังไฟ 1000 วัตต์ มาพร้อมหัวเป่าแบบแคบและแบบกระจายลม ปรับความแรงและความร้อนได้ 2 ระดับ มีโหมดลมเย็นสำหรับล็อคทรงผม
- กำลังไฟ 1000 วัตต์ ให้ลมเป่าที่ทรงพลัง
- หัวเป่าแบบแคบ ช่วยให้เป่าผมตรงหรือเซ็ตทรงผมได้ง่าย
- หัวเป่าแบบกระจายลม ช่วยให้ผมแห้งเร็ว ไม่ชี้ฟู
- ปรับความแรงและความร้อนได้ 2 ระดับ
- มีโหมดลมเย็นสำหรับล็อคทรงผม
- น้ำหนักเบา พับเก็บได้สะดวก
วิธีใช้ไดร์เป่าผมอย่างปลอดภัย
- เสียบปลั๊กไฟให้แน่นก่อนใช้งาน
- ตั้งค่าอุณหภูมิลมให้เหมาะสมกับสภาพเส้นผม
- ถือไดร์เป่าผมให้ห่างจากหนังศีรษะประมาณ 15 เซนติเมตร
- หลีกเลี่ยงการใช้ไดร์เป่าผมในบริเวณที่มีความชื้นสูง
การดูแลรักษาไดร์เป่าผม ควรทำความสะอาดเป็นประจำ โดยถอดปลั๊กไฟก่อนทำความสะอาด และเช็ดทำความสะอาดด้วยผ้าแห้งหรือใช้น้ำยาทำความสะอาดที่อ่อนโยน
ข้อควรระวังในการใช้ไดร์เป่าผม
- ไม่ควรใช้ไดร์เป่าผมขณะที่เส้นผมเปียกชุ่ม เพราะอาจทำให้เส้นผมเสียหาย
- ไม่ควรใช้ไดร์เป่าผมเป็นเวลานาน เพราะอาจทำให้หนังศีรษะไหม้
- ไม่ควรใช้ไดร์เป่าผมในบริเวณที่มีความร้อนสูง เพราะอาจทำให้ไดร์เป่าผมเสียหาย
ไดร์เป่าผม ยี่ห้อไหนดีก็เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่มีประโยชน์ในชีวิตประจำวัน ช่วยประหยัดเวลาในการทำให้เส้นผมแห้งและจัดแต่งทรงผมให้สวยงาม อย่างไรก็ตาม ควรใช้ไดร์เป่าผมอย่างปลอดภัยและระมัดระวังเพื่อหลีกเลี่ยงอันตราย